พระนเรศวรมหาราช

ความรักในสมเด็จพระนเรศวร

            สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีคุณสมบัติของมหาบุรุษครบทั้ง ๔๐ ประการ ในคราวนี้เราจะพาทุกท่านมารับทราบไปพร้อมกันกับแง่มุมความรักของสมเด็จพระนเรศวรที่ทรงมีให้กับพสกนิกรของพระองค์ ทรงห่วงใยทุกข์สุขของประชาชน ทหาร รวมทั้งชาวต่างเมืองที่เข้ามาพึ่งพระบรมธิสมภารของพระองค์

               พระนเรศวรมหาราช                                สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงมีความรัก ความห่วงใยอย่างล้นเหลือต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ในการรบหลายครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรทรงประเมินแล้วว่าเสี่ยงเกินไปที่ทหารจะเสียชีวิต พระองค์จะมีรับสั่งให้ถอยทัพกลับทุกครั้ง เช่นเมื่อครั้งยกทัพไปตีเมืองตองอู เสบียงในกองทัพขาดแคลน ทหารอดอยากพระนเรศวรทรงมีบัญชาให้ยกทัพกลับ เพราะเหตุนี้จึงมีนักวิชาการบางท่านแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์นี้ว่า พระองค์ท่านไม่ได้รบชนะทุกครั้ง แต่มุมมอของเรากลับคิดว่าพระองค์ท่านทรงมีพระเมตตา ห่วงทหารของพระองค์ท่านมากกว่าจะเอาชีวิตทหารไปเสี่ยง ไม่ใช่สู้อย่างกระหายชัยชนะอย่างเดียว จนไม่คิดถึงผู้ใต้บังคับบัญชา ความหมายของการแพ้น่าจะเป็นในความหมายโดนตีจนพ่ายแพ้กลับมากกว่า อย่างในกลศึกสงครามสมเด็จพระนเรศวรทรงวางกลศึกอย่างรัดกุมทุกครั้งเพื่อให้สูญเสียน้อยที่สุด พระองค์ท่านจึงเป็นที่เลื่องลือของชาวต่างชาติ เรื่องการสู้รบที่มียุทธศาสตร์ใช้ทหารน้อยกว่าข้าศึกหลายเท่าแต่ชนะได้ทุกครั้ง และทุกครั้งสมเด็จพระนเรศวรทรงนำทัพด้วยพระองค์เองเพื่อแสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านและทหารมีโอกาสเสี่ยงอันตรายเท่าๆกัน ซึ่งไม่เคยมีกษัตริย์ไทยพระองค์ใดที่ทรงทำมาก่อน พระองค์ทรงห่วงใยทหารมากกว่าชีวิตพระองค์เอง หลายครั้งที่ทรงเสี่ยงชีวิตเพื่อเข้าช่วยทหารไทยที่กำลังเพลี่ยงพล้ำหรือบาดเจ็บ เช่นเมื่อครั้งพระราชมนูทหารคู่พระทัย เคยพลาดพลั้งจนสมเด็จพระนเรศวรต้องทรงเสี่ยงพระองค์เข้าช่วยไว้               ในช่วงท้ายรัชสมัยของพระองค์ยังคงทรงทำศึกสงครามเพื่อบ้านเมือง เป็นการยกทัพใหญ่ไปโจมตีเมืองอังวะเป็นเหตุให้สมเด็จพระนเรศวรทรงเสด็จสวรรคต ณ เมืองหาง

              ในช่วงยุคสมัยของพระนเรศวรมีคนกล่าวว่าพระองค์ทรงเป็นคนเด็ดขาด หลายคนกล่าวถึงพระองค์เรื่องการสั่งประหารชีวิตผู้คนที่ทำผิด หากเราเอาใจย้อนกลับไปในยุคนั้น ยุคที่บ้านเมืองเสียเอกราชเกิดภาวะสับสนวุ่นวาย ขาดผู้นำ ต้องกลายเป็นเมืองขึ้น กฏหมายไม่มีความขลัง เกิดโจรชุกชุม กาีรข่มขืน ขโมย ปล้น ฆ่า หลังสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพไม่เป็นเมืองขึ้นต่กรุงหงสาวดี พระองค์ทรงจัดการทุกอย่าง อย่างเด็ดขาด ทรงเลือกความอยู่รอดของบ้านเมืองมาก่อนสิ่งที่ต้องฝืนความรู้สึกของพระองค์ ทรงเลือกการทำร้ายจิตใจของพระองค์มากกว่าให้สิ่งนั้นกลับมาทำร้ายบ้านเมือง ในยุคที่สมเด็จพระนเรศวรทรงปกครอง ว่ากันว่าใครทำทองหล่นไว้ชั่วข้ามคืนกลับมาก็ยังอยู่ที่เดิม พระองค์ทรงเป็นนักรบแต่มิโปรดให้มีนักเลงหัวไม้ หากทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลจะถูกสำเร็จโทษทันที อาจจะมีผู้สงสัยว่าพระองค์จะรู้ได้อย่างไรว่าใครผู้ถูกประหารชีวิตเป็นโจรผู้ร้ายจริงๆ  ในยุคของสมเด็จพระนเรศวร การจะเข้าเฝ้าต้องหมอบก้มหน้าขณะเข้าเฝ้าฯเสมอ ประชาชนส่วนใหญ่จึงไม่มีใครเคยเห็นพระองค์อย่างชัดเจน นอกจากทหารใกล้ชิดพระองค์จริงๆ  ทำให้สมเด็จพระนเรศวรสามารถปลอมเป็นสามัญชนเสด็จฯไปตามที่ต่างๆในพระนครอยู่เสมอๆ เพื่อสืบเรื่องราวข่าวลือต่างๆ ที่ชาวเมืองพูดถึงพระองค์ ถ้ามีเรื่องไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นพระองค์จะทรงทราบโดยตรง อีกทั้งยังคาดโทษสำหรับผู้กล่าวบังทูลความเท็จโดยการประหารชีวิตเจ็คชั่วโคตร แม้แต่การแปลภาษาก็ต้องห้ามผิดพลาด และโดยปกติเวลามีชาวต่างชาติเข้าเฝ้าฯ พระองค์ทรงเลือกที่จะตรัสด้วยพระองค์เอง ซึ่งพระองค์ทรงพูดได้หลายภาษาทั้งมอญ พม่า บาลี สันสกฤต ไทยใหญ่ ลาว ยกเว้นภาษาตะวันตก ที่หากเข้าเฝ้าฯจะทรงใช้ล่ามและห้ามแปลผิด ในยุคของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขุนนางข้าราชการจึงไม่กล้าใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแก หรือขูดรีดชาวตะวันตก ที่เดินทางเข้ามาค้าขายกับสยาม การดำเนินงานของข้าราชการเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม เพราะถ้าโดนร้องเรียนเรื่องคอร์รัปชั่น ชาวตะวันตกอาจกราบทูลพระองค์โดยตรง

                     การเข้าเฝ้าฯของชาวตะวันตกก็ไม่ต้องหมอบคลานอย่างเช่นชาวไทย ในครั้งแรกๆชาวตะวันตกยังหมอบคลานเพื่อเข้าเฝ้าฯด้วยท่าทางไม่คุ้นนัก พระองค์จึงทรงตรัสถามว่าเวลาเข้าเฝ้าฯกษัตริย์ของประเทศท่านทำเช่นไรให้ทำเช่นนั้นกับเราเถิด ตั้งแต่นั้นมาชาวตะวันตกจึงไม่ต้องคลานเข่าข้าเฝ้าฯพระองค์

                    สมเด็จพระนเรศวรทรงมีความรัก ความห่วงใยต่อพสกนิกรของพระองค์ การต้องตกเป็นเมืองขึ้นอย่างที่เพื่อนบ้านเราเคยเป็น   ต้องเจอช่วงเวลาที่โหดร้าย ถูกย่ำยี ประชาชนต้องทุกข์ทรมาน หากมีสงครามก็ต้องโดนเกณฑ์ไปรบ ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการตามแต่ตกลงว่าทุกเดือนหรือทุกสัปดาห์ โดยมิได้ห่วงว่าทรัพยาการอาหารจะเพียงพอต่อประเทศราชหรือไม่ แต่ด้วยพระองค์ทรงห่วงประชาชนชาวไทย ท่านจึงทรงกอบกู้เอกราชคืนอิสรภาพให้แก่คนไทยอีกครั้ง แม้พระองค์ต้องละทิ้งความสุขของพระองค์ หากเรานึกย้อนไปยุคที่ไม่ได้มีความสะดวกสบายอะไรเลย ต้องรอนแรมตามป่าเขา ถ้าเป็นเราจะอยู่ได้ไหม เราจะทำเพื่อชาติบ้านเมืองเช่นเดียวกับบรรพบุรุษเราได้หรือไม่….ของพระองค์ทรงพระเจริญ บุญญาธิการสูงยิ่งๆขึ้นไปเถิด

                        ในคราวหน้าเราจะมาทราบเรื่องราวในแง่มุมความรักของสมเด็จพระนเรศวรที่หลายคนสงสัย และเป็นประเด็นกันยาวนานเหลือเกินว่า พระองค์มีพระมเหสีหรือไม่ มีสนมหรือเปล่า แล้วบุตรธิดาของพระองค์มีกี่คน เป็นเรื่องที่เราจะมาวิเคราะห์กันในบทความหน้ากันคะ

Posted in สาระพันเรื่องเล่า.

Leave a Reply

Your email address will not be published.