เขาสมอแคลง สถานที่ซุ่มฝึกนักรบในอดีตของสมเด็จพระนเรศวร
ตามตำราพิชัยสงคราม สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้น เมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงครอง
พิษณุโลก ดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราช ซึ่งในบริเวณนั้นพบบ่อน้ำโบราณ ๒บ่อ
โดยชาวบ้านในบริเวณนั้นเชื่อว่าเป็นสถานที่สำหรับทำความสะอาดดาบ อาวุธ ต่อมาบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ สำนักสงฆ์สระสองพี่น้อง เขาสมอแคลง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หรือปัจจุบันคือพระมหาธาตุเจดีย์ศรีบวรชินรัตน์ โดยสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
บูชาคุณงามความดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของบูรพมหากษัตริย์นักรบไทยส่วนยอดที่เป็นดอกบัวของพระมหาธาตุเจดีย์นั้นได้ บรรจุพระบรมธาตุ คือพระนลาต(กระดูกส่วนหน้าผาก) และพระบรมสารีริกธาตุส่วนต่างๆ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยนาวาเอก จุลินทร์ เหลือนาค อดีตครูโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ครูโรงเรียนเตรียมนายเรือ และโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น๑ ถึงรุ่น๒๗ ซึ่งบ้านเดิมของท่านอยู่ที่บ้านจอมทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ได้อัญเชิญมาจากประเทศปากีสถาน เป็นผู้ริเริ่มการก่อสร้าง พระมหาธาตุฯ ตามคำ บอกเล่าในหลักศิลาจาลึกของพญาลิไท จาลึกนครชุมมีข้อความว่า”ให้ลูกหลาน หมั่นกระทำบูชาพระสถูปธาตุเจดีย์พระศรีมหาโพธิเสมอดั่งตนพระเจ้าเรา” จึงได้สร้างไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ทำการสักการะสืบต่อไป การก่อสร้างนี้ได้ นำศิลปะของช่างยุคกรุงสุโขทัยมาเป็นต้นแบบในการก่อสร้างที่วัดแห่งนี้จะมี จุดชมวิวซึ่งอยู่ในชัยภูมิที่ดีมาก โดยหากมองเป็นระยะทางไกลหากมีการยกทัพมาจะมองเห็นได้ชัด
เขาสมอแคลง
และเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาสมอแคลงจะพบเจดีย์ยอดด้วน
มีเรื่องเล่าว่า “เจดีย์บนยอดเขาสมอแคลง ผู้สร้างคือพระยาจิตรไวย สร้างเพื่อบรรจุพระธาตุเจ้าของพระอุบาลีเถระและพระศิริยานนท์ เจดีย์บนเขามีการสร้างและซ่อมแซมบูรณะหลายครั้ง การขุดค้นพบทางโบราณคดีและการขุดแต่งโบราณสถานบนยอดเขาสมอแคลง หลักฐานที่พบคือ
เจดีย์ทรงลังกา มีฐานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ๓ ชั้น หลังจากนั้นเป็นฐานย่อแปดเหลี่ยม แล้วขึ้นเป็นองค์ระฆัง แต่ไม่พบบัลลังก์คือ จากองค์ระฆังก็ถึงปล้องไฉนรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยสุโขทัยตอน ปลายหรือสมัยอยุธยาตอนต้น หลักฐานนี้แสดงว่าน่าจะมีการบูรณะปฎิสังขรณ์เจดีย์ในสมัยสุโขทัยตอนปลาย หรือสมัยอยุธยาตอนต้นซึ่งอาจเป็นสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถก็ได้”
***ข้อมูลกรมศิลปากร
เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวิวสวยงามมากค่ะ ไปที่นั้นแล้วเห็นถึงความยากลำบากของบรรพบุรุษกว่าจะรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้ ให้ลูกหลาน ต้องอาศัยและซุ่มอยู่ตามป่าตามเขา
อาหารการกิน ที่อยู่อาศัยก็ลำบาก ยิ่งทำให้รักประเทศไทยและบรรพบุรุษยิ่งนัก ที่นี่มีจุดชมวิวที่สวยงามมองไปไกลสุดลูกหูลูกตาจริงๆ แอบนึกว่าเราเป็นทหารซุ่มดูทัพข้าศึกแอบอินกับสถานที่นิดนึง
ที่นี่อาจจะซับซ้อนหน่อยนะค่ะ แต่หาไม่ยากค่ะ