รำลึก ๔๐๐ ปี แห่งการสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ประวัติองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ทรงมีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ พระราชสมภพ เมื่อวันพฤหัสบดี ปีเถาะ พุทธศักราช ๒๐๙๘ ณ พระราชวังจันทร์ จังหวัดพิษณุโลก เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช และพระวิสุทธิกษัตริย์ ทรงมีพระพี่นาง พระนามว่าพระสุพรรณกัลยา หรือ พระองค์ทอง และพระอนุชาทรงพระนามว่า สมเด็จพระเอกาทศรถ หรือพระองค์ขาว ขณะทรงพระเยาว์ สมเด็จพระชนกทรงพระยศเป็นเจ้าขัณฑสีมา ครองเมืองพิษณุโลกมีอำนาจบังคับหัวเมืองฝ่ายเหนือ
พ.ศ. ๒๑๐๖ พระเจ้ากรุงหงสาวดีบุเรงนองยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ และทรงขอพระองค์ดำ ซึ่งมีพระชนมายุ ๙ ชันษา ไปเป็นองค์ประกัน ณ กรุงหงสาวดี และทรงการสงครามเป็นครั้งแรกในคราวสงครามช้างเผือก โดยพระเจ้าบุเรงนอง เริ่มโจมตี หัวเมืองเหนือลงมาก่อน ก่อนจะเลิกทัพกลับกรุงหงสาวดี พระเจ้าบุเรงนองไม่ไว้วางพระทัยพระมหาธรรมราชา ซึ่งครองเมืองพิษณุโลก จึงได้ขอพระนเรศวรไปอยู่ที่หงสาวดีเพื่อทรงเลี้ยงเป็นราชบุตรบุญธรรม จนเมื่อมีพระชนมายุ ๑๕ พรรษา พระมหาธรรมราชาซึ่งได้รับการสถาปนาให้เป็นกษัตริย์ปกครองกรุงศรีอยุธยา ในฐานะเมืองประเทศราชได้ขอสมเด็จพระนเรศวรเพื่อมาช่วยราชการ พระเจ้าบุเรงนองยินยอมแต่ต้องแลกกับพระสุพรรณกัลยา โดยนำไปเป็นพระชายาและองค์ประกันแทน
พ.ศ. ๒๑๑๔ ได้รับสถาปนาให้ปกครองเมืองพิษณุโลก เมื่อพระชนมายุ ๑๖ พรรษา
พ.ศ.๒๑๑๗ พระชนมายุ ๑๙ พระเจ้าบุเรงนองได้เกณฑ์กองทัพไทยไปช่วยตีเมืองเวียงจันทร์ พระองค์ได้เสด็จไปพร้อมกับพระราชบิดา(พระมหาธรรมราชา) เพื่อไปสมทบกับทัพหลวงแห่งกรุงหงสาวดีที่เมืองเวียงจันทร์แต่พระองค์ทรงพระ ประชวรด้วยไข้ทรพิษจึงได้เสด็จกลับก่อน
พ.ศ.๒๑๒๑ พระชนมายุได้ ๒๓ พรรษา พระองค์ได้เสด็จมาเฝ้าพระราชบิดาที่กรุงศรีอยุธยา ประสบเหตุการณ์พระยาจีนจันตุ ขุนนางเขมรอาสาเข้ามาปล้นเมืองเพชรบุรีแต่ไม่สำเร็จ ยอมสวามิภักดิ์ไทย ครั้นสืบได้ความลับบางประการคิดหนีกลับลงเรือออกไปทะเล พระองค์ได้แสดงพระทัยกล้าหาญออกติดตามทันที
พ.ศ.๒๑๒๒ พระชนมายุได้ ๒๔ พรรษา พระองค์ทรงเป็นแม่ทัพโจมตีชนะพระทศราชา กษัตริย์เขมรที่ลอบยกกองทัพมาโจมตีทางภาคตะวันออก ได้รับชัยชนะทั้งๆที่กำลังพลน้อยกว่า
พ.ศ.๒๑๒๔ พระชนมายุได้ ๒๖ พรรษา เป็นช่วงที่พระเจ้าหงสาวดีสวรรคตได้เสด็จนำทัพไปร่วมในพิธีบรมราชาภิเษก กษัตริย์พระองค์ใหม่ คือ พระเจ้านันทบุเรง แทนพระราชบิดา ในคราวนั้นได้แสดงพระปรีชาสามารถนำทัพโจมตีเมืองคังได้สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านั้น พระมหาอุปราช และพระสังกะทัตราชบุตรพระเจ้าตองอูไม่สามารถเข้าตีได้ แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์สามารถชนะศึกในครั้งนี้
พ.ศ. ๒๑๒๖ พระชนมายุได้ ๒๘ พรรษา พระองค์ได้ทรงนำทัพไปช่วยหงสาวดีรบกับอังวะตามราชโองการของพระเจ้าหงสาวดีแต่พระองค์ทรงรู้เท่าทันกุศโลบาย จึงแสร้งเดินทัพช้านานเกือบสามเดือนจนถึงเมืองแครง
พ.ศ. ๒๑๒๗ พระชนมายุได้ ๒๙ พรรษา ทรงประกาศอิสรภาพไม่ขึ้นต่ออำนาจการปกครองของพม่า เมื่อเดือน ๖ ขึ้น ๑ ค่ำ ที่เมืองแครง พระเจ้ากรุงหงสาวดีมีรับสั่งให้สุรกรรมา ยกทัพตามไล่จับพระองค์ แต่ในที่สุดพระองค์ทรงยิงปืนข้ามแม่น้ำสะโตงถูกสุรกรรมาแม่ทัพพม่าตาย และกวาดต้อนคนไทยกลับพระนคร
พ.ศ. ๒๑๒๘ – ๒๑๓๐ ทรงทำสงครามชนะกองทัพพม่าหลายครั้ง และกองทัพพม่าถูกไทยตีแตกพ่ายกลับไป ทำให้อาณาจักรไทยมั่งคงและปลอดภัยจากสงครามมากขึ้น
สมเด็จพระนเรศวรรับบทโดย พันตรีวันชนะ สวัสดี ในภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
พ.ศ. ๒๑๓๓ ภายหลังจากที่สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคต พระองค์ได้เสด็จขึ้นครองราชย์แทน ณ กรุงศรีอยุธยาเมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา
พ.ศ. ๒๑๓๕ พระชนมายุ ๓๗ พรรษา เมื่อวันจันทร์แรม๒ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จุลศักราช๙๕๔ พระเจ้านันทบุเรงมีพระราชโองการให้พระมหาอุปราชายกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา อีก ในครั้งนี้ พระองค์ได้ทรงกระทำยุทธหัตถีประสบชัยชนะโดยได้จ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าวตรง ไหล่ขวา พระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง
***และด้วยพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงรบและชนะศึกสงครามทุกครั้งกระทรวงกลาโหมได้ประกาศให้วันที่๒๕ มกราคม ของทุกปีเป็นวันกองทัพไทย แต่เมื่อนักวิชาการหลายท่านได้คำนวนออกมาใหม่ วันที่กระทำยุทธหัตถีเมื่อ๔๐๐กว่าปี จะตรงกับวันที่๑๘ มกราคม
พ.ศ. ๒๑๔๗ ทรงกรีฑาทัพไปตีอังวะ พร้อมด้วยพระอนุชา ครั้นเมื่อไปถึงเมืองหาง ทรงพระประชวร เป็นหัวระลอกขึ้นที่พระพักตร์และเป็นไข้ทรพิษ เสด็จสวรรคต ณ ทุ่งแก้ว เมืองหาง ตรงกับวันขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเส็ง พระชนมายุ ๕๐ พรรษา เสวยราชสมบัติได้ ๑๕ ปี
ตลอดระยะเวลาพระองค์ท่านทรงทำศึกอยู่ตลอดเวลา ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยบ้านเมืองและชาวสยาม ทรง ประกาศอิสรภาพไม่เป็นเมืองขึ้นแก่พม่า พระองค์ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ ทรงต่อสู้เพื่อให้ได้เอกราช ให้ชาวไทยได้มีผืนแผ่นเดินอาศัยจนถึงทุกวันนี้