เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยประวัติศาสตร์ไทย
วันนี้ขอนำเสนอข้อมูลที่ทำให้คนไทยอย่างเราภาคภูมิใจกับอารยธรรมชาติไทยที่บรรพบุรุษท่านได้สั่งสมเอาไว้อย่างยาวนาน เพราะเมื่อเร็วๆนี้นักประวัติศาสตร์ ชาวต่างประเทศชื่อดัง ที่ได้เคยศึกษาและมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเมืองโบราณจากสถานที่ต่างๆ รวมถึงศึกษาวิวัฒน์ของเมืองต่างๆ ทั่วโลกในระยะเวลา ๕,๐๐๐ ปี คือ จากช่วงก่อนคริสต์ศักราช ๓,๐๐๐ ปี จนถึง ปี ค.ศ.๒,๐๐๐ โดยสรุปอันดับเมืองใหญ่ ในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งกรุงศรีอยธุยาได้รับการจัดอันดับในครั้งนี้ด้วย
สงครามช้างเผือก เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. ๒๑๐๗ ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่๑ สงครามครั้งนี้ถือว่าไทยพ่ายแพ้แก่พม่า ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเสียเลือดเนื้อ เพราะเป็นการยอมให้ช้างเผือกเป็นช้างที่มีบุญญาบารมีของกษัตริย์ ในยุคนั้นสมเด็จพระมหาจักรรดิ ทรงเป็นที่เลื่องลือทั่วเอเซียว่าทรงเป็นพระเจ้าช้างเผือก เนื่องจากพระองค์ทรงมีช้างเผือก เยอะที่สุดจำนวนจำนวน๗เชือก
วิชาดาบอาทมาฏในสมเด็จพระนเรศวรฯ เป็นวิชาที่รวดเร็ว รุนแรง และอันตรายมาก โดยเฉพาะวิชาตัดข้อตัดเอ็น ซึ่งเป็นวิชาสูงสุดของอาทมาฏ คือไม่มีการฟันดาบ แต่มุ่งฟันข้อต่อของร่างกาย หัวใจของวิชา การฝึกฝน และ เคล็ดวิชา หัวใจ ของวิชา ก็คือ ท่า ฟันคือท่ารับ ท่ารับคือท่าฟัน ท่ารุกคือท่ารับ ท่ารับก็คือท่ารุก เขาฟันเราไม่รับ เขารับเราไม่ฟัน จะฟันต่อเมื่อเขาไม่รับ จะรับต่อเมื่อหลบหลีกไม่พ้น เพลงดาบอาทมาฏ ในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ใช้สู้ในศึกสงครามสามารถสู้กับคู่ต่อสู้ได้ ๑ คน ต่อ ๗คน เป็นวิชาที่สืบทอดกันมาแต่โบราณแบบครูถ่ายทอดไปให้ศิษย์โดยตรง
ย้อนอดีตไปช่วงยุคสมัยสุโขทัยมีหลักฐานการใช้ทองคำเป็นเครื่องราชบรรณาการ และการสร้างพระพุทธรูปด้วยทองคำ รวมทั้งภาชนะอื่นๆ เช่น ตลับและผอบเล็กๆ สำหรับใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือทำเป็นเจดีย์ขนาดเล็ก และเครื่องประดับ เช่น แหวน ต่างหู กำไล ฯลฯ แหล่งทองคำในสมัยนั้น ส่วนหนึ่งได้มาจากเมืองบางสะพาน ซึ่งปัจจุบันเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอีกส่วนหนึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีน
สวัสดีค่ะ ช่วงหลังมานี้มีเพื่อนๆเรียกร้องมามาก ว่าอยากทราบลำดับราชวงศ์กษัตริย์ไทยในอดีตและแผนที่อยุธยาในอดีตที่ชาวต่างชาติ ได้วาดไว้เมื่อมาเยื่อนอยุธยา ทางเราได้ค้นคว้าภาพมาให้เพื่อนๆได้ชมกันแล้วคะ โดย ๑ในนั้นมีภาพที่ชาวฮอลลันดาได้วาดไว้ ไปชมกันได้เลยคะ
หลังจากที่เราได้รู้จัก พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ช้างเผือกเชือกแรกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่๙ ในครั้งนี้เพื่อนๆจะได้พบกับ พระเศวตสุรคชาธาร ช้างเผือกแสนรู้อีกเชือกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่๙
สวัสดีค่ะ หลังจากที่เราได้ทราบประวัติส่วนตัวของคุณลุงแก้ว บุตรชาติ ในตอน ควาญช้างสำคัญ(ช้างเผือก)ของในหลวง ตอนที่๑ และที่มาของช้างเผือกเชือกแรกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กันแล้ว ด้วยเรื่องราวที่ยาวมากเลยแบ่งออกเป็นตอน เรามาอ่านกันต่อในบทความนี้ เลยนะคะ ทุกครั้งที่คุณลุงแก้ว บุตรชาติ จะขึ้นขี่พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ คุณลุงจะยกมือไหว้ตามความเชื่อที่ปู่ย่าตายาย ครูบาอาจารย์สอนมา โดยขออนุญาตเทวดาก่อนเสมอ คุณลุงเล่าให้ฟังถึงอุปนิสัยของช้างเผือก ค่อนข้างเป็นช้างถือตัว
หลังจากที่เพื่อนๆได้ทราบเรื่องราว “เรามารู้จักช้างเผือกให้มากกว่านี้กันเถอะ” วันนี้เราจะพาเพื่อนๆมารู้จักกับคุณลุงแก้ว บุตรชาติ ควาญผู้ดูแลช้างเผือกเชือกแรกของในหลวงกันนะคะ คุณลุงได้ออกรายการเจาะใจเทปเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๕ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวสนุกๆของการ เป็นควาญช้างและพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในหลวงของเรา ที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์จนถึงสัตว์ทรงเลี้ยง
เรามารู้จักช้างเผือกให้มากกว่านี้กันเถอะ ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองไทยมานับร้อยปี ในอดีตมีความสำคัญมาก ตั้งแต่ใช้ในการรบ ยามศึกสงบก็มีส่วนร่วมในพิธีสำคัญต่างๆ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเรากำลังหมายถึงช้างเผือก ช้างเผือกที่ถูกลักษณะคชลักษณ์นั้นหายากมาก จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อพระมหากษัตริย์มีพระบารมี ในอดีตจึง มีการเสริมบารมีของพระมหากษัตริย์ด้วยการหาช้างเผือก นอกจากนี้ตามความเชื่อแต่โบราณ ช้างเผือกหากบ้านเมืองไหนมีไว้ครอบครองจะนำพาความอุดมสมบูรณ์ ร่มเย็นมาสู่บ้านเมืองนั้น
การจัดกองทัพอโยธยาในสมเด็จพระนเรศวร กองทัพอโยธยาของสมเด็จพระนเรศวร ในศึกยุทธหัตถี เมื่อพ.ศ. ๒๑๕๓ กองทัพอโยธยาของ พระนเรศวรนั้นได้จัดขบวนเป็นรูปแบบ เบญจเสนา หรือเรียกว่าห้าทัพดังนี้